#๗๖อภิธัมมาวตาราวตาร :
เพื่อเข้าถึงคัมภีร์อภิธัมมาวตาร
กามาวจรกุศลจิต : คำวินิจฉัยบุญกิริยวัตถุ ๑๐ ข้อว่า สวนมัย
(
เนื้อความช่วงนี้อยู่ใน #คัมภีร์อภิธัมมาวตาร๘ )
เมื่อคราวที่แล้วได้แสดงวินิจฉัยเกี่ยวกับบุญญกิริยาไปแล้วหลายข้อ
บัดนี้จะได้แสดงปกิณณกวินิจฉัยในปุญญกิริยาที่เหลือสืบไป
สวนมยบุญกิริยา
ก็คือ การที่ได้ฟังพระสัทธรรมโดยแนวทางแห่ง #วิมุตตายตนะ (ดูใน #๗๓อภิธัมมาวตาราวตาร ) ไม่ว่าจะเป็นของตนหรือผู้อื่นก็ตาม
ด้วยตั้งจิตไว้อย่างนีีว่า
เราครั้นได้ฟังธรรมอย่างนี้ปฏิบัติตามที่ท่านกล่าวไว้ในที่นั้นแล้วจักบรรลุคุณวิเศษทั้งโลกียะและโลกุตระ.
หรือ เราเป็นพหูสูตแล้วจักอนุเคราะห์ผู้อื่นด้วยธรรมเทศนาสืบไป” บุญกุศลชนิดนี้เรียกว่า
สวนมยบุญกิริยาวัตถุ.
(บัณฑิตพึงทราบว่า
การฟังธรรมมีอานิสงส์หรือจะมีเป้าหมายสูงสุดคือได้บรรลุอานิสงส์ดังกล่าว และอาจสามารถบอกสอนแก่ผู้อื่นได้
ตามที่ต้องการ ซึ่งควรเป็นสิ่งที่ควรตั้งไว้ในใจอย่างนี้ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ในวิมตตายตนสูตร.
กรณีนี้เป็นการแสดงโดยอุกกัฏฐนัย คือ
นัยแห่งการแสดงอย่างสูงสุด. อย่างไรก็ตาม แม้เมื่อไม่อาจทำตามเป้าหมายสูงสุดนั้นได้เป็นไป
การฟังธรรมก็จะอำนวยอานิสงส์อื่น อาทิ ความเเป็นผู้มีปัญญามากเป็นต้นด้วย
มีอุทาหรณ์มากมายที่อาทิ การได้ยินบทธรรมของสองสามีภรรยาในครั้งอดีต
แม้จะไม่รู้อรรถของเทศนาการได้ยินบทธรรมก็เป็นปัจจัยให้บรรลุธรรมได้ง่ายในครั้งนี้
และแม้สัทธิวิหาริกของพระสารีบุตร ๕๐๐ รูปที่อดีตชาตเป็นค้างคาว
ได้สดับการสาธยายพระอภิธรรม แม้ไม่รู้เรื่องแต่เพราะถือนิมิตในเสียง ก็ได้ปัจจัยนั้นมาเป็นพระผู้ชำนาญพระอภิธรรมได้
ซึ่งอุทาหรณ์เหล่านี้เป็นเครื่องแสดงอานิสงส์โดยอ้อมของการฟังธรรม)
ส่วนแม้การฟังหรือศึกษาเล่าเรียนวิชาการอื่นๆ
ที่ไม่มีโทษก็สงเคราะห์เข้าในข้อนี้.
ขออนุโมทนา
สมภพ สงวนพานิช