วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559

๗๖ สวนมัย

#๗๖อภิธัมมาวตาราวตาร : เพื่อเข้าถึงคัมภีร์อภิธัมมาวตาร

กามาวจรกุศลจิต : คำวินิจฉัยบุญกิริยวัตถุ ๑๐ ข้อว่า สวนมัย 

( เนื้อความช่วงนี้อยู่ใน #คัมภีร์อภิธัมมาวตาร๘ )
เมื่อคราวที่แล้วได้แสดงวินิจฉัยเกี่ยวกับบุญญกิริยาไปแล้วหลายข้อ บัดนี้จะได้แสดงปกิณณกวินิจฉัยในปุญญกิริยาที่เหลือสืบไป
          สวนมยบุญกิริยา ก็คือ การที่ได้ฟังพระสัทธรรมโดยแนวทางแห่ง #วิมุตตายตนะ (ดูใน #๗๓อภิธัมมาวตาราวตาร ) ไม่ว่าจะเป็นของตนหรือผู้อื่นก็ตาม ด้วยตั้งจิตไว้อย่างนีีว่า เราครั้นได้ฟังธรรมอย่างนี้ปฏิบัติตามที่ท่านกล่าวไว้ในที่นั้นแล้วจักบรรลุคุณวิเศษทั้งโลกียะและโลกุตระ. หรือ เราเป็นพหูสูตแล้วจักอนุเคราะห์ผู้อื่นด้วยธรรมเทศนาสืบไป” บุญกุศลชนิดนี้เรียกว่า สวนมยบุญกิริยาวัตถุ.
          (บัณฑิตพึงทราบว่า การฟังธรรมมีอานิสงส์หรือจะมีเป้าหมายสูงสุดคือได้บรรลุอานิสงส์ดังกล่าว และอาจสามารถบอกสอนแก่ผู้อื่นได้ ตามที่ต้องการ ซึ่งควรเป็นสิ่งที่ควรตั้งไว้ในใจอย่างนี้ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ในวิมตตายตนสูตร.  กรณีนี้เป็นการแสดงโดยอุกกัฏฐนัย คือ นัยแห่งการแสดงอย่างสูงสุด. อย่างไรก็ตาม แม้เมื่อไม่อาจทำตามเป้าหมายสูงสุดนั้นได้เป็นไป การฟังธรรมก็จะอำนวยอานิสงส์อื่น อาทิ ความเเป็นผู้มีปัญญามากเป็นต้นด้วย มีอุทาหรณ์มากมายที่อาทิ การได้ยินบทธรรมของสองสามีภรรยาในครั้งอดีต แม้จะไม่รู้อรรถของเทศนาการได้ยินบทธรรมก็เป็นปัจจัยให้บรรลุธรรมได้ง่ายในครั้งนี้ และแม้สัทธิวิหาริกของพระสารีบุตร ๕๐๐ รูปที่อดีตชาตเป็นค้างคาว ได้สดับการสาธยายพระอภิธรรม แม้ไม่รู้เรื่องแต่เพราะถือนิมิตในเสียง ก็ได้ปัจจัยนั้นมาเป็นพระผู้ชำนาญพระอภิธรรมได้ ซึ่งอุทาหรณ์เหล่านี้เป็นเครื่องแสดงอานิสงส์โดยอ้อมของการฟังธรรม)
          ส่วนแม้การฟังหรือศึกษาเล่าเรียนวิชาการอื่นๆ ที่ไม่มีโทษก็สงเคราะห์เข้าในข้อนี้.

ขออนุโมทนา

สมภพ สงวนพานิช

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น