วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

๖๖ : แม้จิตก็ชื่อว่า กามาวจร ด้วยเหตุที่นับเนื่องในกาม

#๖๖อภิธัมมาวตาราวตาร เพื่อเข้าถึงคัมภีร์อภิธัมมาวตาร
กามาวจรกุศลจิต : แม้จิตก็ชื่อว่า กามาวจร ด้วยเหตุที่นับเนื่องในกาม

( เนื้อความช่วงนี้อยู่ใน #คัมภีร์อภิธัมมาวตาร๗ )

ได้กล่าวถึงเหตุที่ทำให้เกิดหรือมีคำว่า กามาวจร มีอยู่ ๓ คือ การท่องเที่ยวไปโดยส่วนมากในกาม, การเป็นเหตุให้ปฏิสนธิเป็นไปในกาม และการที่นับเนื่องในกาม. บัดนี้จะกล่าวถึงเหตุที่ ๓ คือ การที่กุศลจิต ๘ ดวงนี้ ยังคงนับเนื่อง มีความเกี่ยวข้องอยู่ในกามภพ.

คำว่า กามาวจรจิต ในความหมายนี้มาจาก กามาวจร จิต  

กามาวจร กามภพ

จิต = นับเนื่อง คือ ทำให้เป็นอารมณ์

เมื่อเวลาประกอบศัพท์เป็นกามาวจร แปลว่า จิตนับเนื่องในกามาวจร คำว่า จิตเป็นความหมายแฝงอยู่ใน กามาวจร นั้นแล้ว.

คำว่า  กามาวจร ในที่นี้ต่างกับ กามาวจร ในความหมายที่แล้วมา คือ  
       
ในคำว่า กามาวจร ที่แปลว่า จิตที่ท่องเที่ยวไปในกามภพ หรือ ที่ยังปฏิสนธิให้ท่องเที่ยวไปในกามภพ มาจาก คำว่า กามาวจร และลบอวจร เหลือเพียง กาม คือกามภพ + อวจร แปลว่า จิตที่ท่องเที่ยวหรือทำให้ปฏิสนธิท่องเที่ยว. แต่ในที่นี้ คำว่า กามาวจร ก็คือ กามภพ นั่นแหละ แต่ไม่ลบ อวจร คงรูปเดิมเป็น กามาวจร นั่นเอง. ต่อมานำมารวมกับคำว่า จิต จึงเรียกว่า กามาวจรจิต โดยใช้ในความหมายว่า จิตที่นับเนื่อง ตกอยู่ภายใน หรือนับรวมเข้ากับกามาวจรภพนั่นเอง. แต่ในเวลาที่ใช้เรียกก็เรียกว่า กามาวจรเท่านั้น โดยไม่แตะต้องคำว่า กามาวจร ที่แปลว่า กามภพ เหมือนอย่างความหมายที่แล้วมา ที่มีการลบ อวจร ทิ้งไป.

สรุปว่า กามาวจร คือ จิตที่นับเนื่องอยู่ในกามวจรนั่นแหละ.

เมื่อทราบเหตุเกิดของคำว่า กามาวร ในความหมายว่า “นับเนื่องอยู่ในกามาวจร” ของกามาวจรจิตนี้แล้ว จิตเหล่านี้นับเนื่องอยู่กับกามาวจร เพราะถึงแม้จะไปเกิดในรูปภพ อรูปภพ ก็ตาม ก็ยังได้ชื่อว่า นับเนื่องหรือรวมลงไปในกามภพเหมือนกัน อุปมาเหมือนกับ ดิรัจฉานที่ไปในเกิดในท้องหญิงมนุษย์ ก็ยังคงได้ชื่อว่า ดิรัจฉานอยู่นั่นเอง เพราะยังถือว่านับเนื่องในดิรัจฉานกำเนิดนั่นเอง.

ประเด็นอยู่ที่ความนับเนื่องคืออะไร ขอยกไปกล่าวคราวหน้า เพราะหากกล่าวคราวนี้เห็นทีจะยาวเกิน กว่าจะจบ

ขออนุโมทนา

สมภพ สงวนพานิช

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น