#๓๒อภิธัมมาวตาราวตาร :
เพื่อเข้าถึงคัมภีร์อภิธัมมาวตาร
อัพยากตชาติ :
ลักขณาทิจตุกกะของอัพยากตะ
การพรรณนาอัพยากตชาติต่อจากอกุศลชาติ
มาถึงโดยลำดับแห่งถ้อยคำที่มาในอภิธัมมาวตาร. ควรศึกษาอัพยากตชาติโดยลักขณาทิจตุกกะเป็นลำดับแรก
ตทุภยวิปรีตลกฺขณมพฺยากตํ,
อวิปาการหํ วาฯ
อัพยากตะนั้น #มีอันผิดแปลกไปจากกุศลและอกุศลทั้งสองเป็นลักษณะ
อีกอย่างหนึ่ง
อัพยากตะนั้น เป็นธรรมที่#ไม่ควรแก่วิบาก.
ลักษณะของอัพยากตะ
ที่ควรกำหนดเป็นพิเศษ คือ ความเป็นตรงข้ามต่อกุศลและอกุศล. ดังนั้น
คงต้องทบทวนลักษณะของกุศลและอกุศลสักเล็กน้อย
กุศล คือ
ธรรมที่ไม่มีโทษและมีวิบากน่าปรารถนาเป็นลักษณะ, อกุศล คือ
ธรรมที่มีโทษและมีวิบากไม่น่าปรารถนาเป็นลักษณะ อัพยากตะ ไม่ใช่ธรรมทั้งสองอย่างนั้น
ก็เพราะไม่มีวิบากเลย. เมื่อไม่มีวิบาก จะชื่อว่า
มีวิบากน่าปรารถนาและไม่น่าปรารถนาเป็นลักษณะได้อย่างไร.
#ปัญหาน่าสงสัย อีกแล้ว
ถาม คำว่า อัพยากตะ
ที่ท่านอาจารย์อธิบายมา ก็คือ
ธรรมที่มีวิบากอีกชนิดที่ผิดแปลกไปจากวิบากน่าปรารถนาและไม่น่าปรารถนา เพราะเทียบกับอุเบกขาเวทนา
ที่เป็นเวทนาอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นเวทนาผิดแปลกไปของสุขเวทนา ทุกขเวทนา
ที่เรียกว่า อทุกขมสุขเวทนา อย่างนี้่ก็ได้ ถูกไหม?
ตอบ ไม่ได้
เพราะวิบากดังที่ว่ามานั้นไม่มีอยู่,
ท่านทั้งหลายลองนึกเปรียบเทียบดูกับแสงสว่างกับความมืด ยังมีแสงสว่างอีกชนิดหนึ่งที่เป็นแสงสว่างผิดแปลกไปอีกหรือ,
จะมีความมืดอีกชนิดหนึ่งที่เป็นความมืดผิดแปลกไปอีกหรือ, ไม่มีหรอกท่าน ฉะนั้น
เมื่อวิบากน่าปรารถนาและวิบากไม่น่าปรารถนาไม่มีวิบากอีกชนิดหนึ่งที่แปลกไป จะว่า
อัพยากตะมีวิบากอีกชนิดหนึ่งที่แปลกไปได้อย่างไร.
อันที่จริงควรจำไว้ว่า
อัพยากตะแปลกไปจากกุศลและอกุศล เพราะไม่มีวิบากเท่านั้นไม่ใช่มีวิบากแปลกไป.
ปัญหาเหล่านี้มีไว้เพื่อความเป็นผู้มีเชาวน์ไวทางพระอภิธรรม
อาจดูเหมือนเป็นความคิดที่แล่นออกไปนอกกรอบบ้าง แต่ถือว่า คิดเพื่อสร้างสรรค์ ขอพวกเราอย่าได้ละเลยข้อทักท้วงเหล่านี้
วันหนึ่ง ถ้าเจอปัญหาแบบนี้ จะได้มีทางออก.
ขออนุโมทนา
สมภพ สงวนพานิช
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น