วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

๓๒ : อัพยากตชาติ : ลักขณาทิจตุกกะของอัพยากต

#๓๒อภิธัมมาวตาราวตาร : เพื่อเข้าถึงคัมภีร์อภิธัมมาวตาร
อัพยากตชาติ : ลักขณาทิจตุกกะของอัพยากตะ

การพรรณนาอัพยากตชาติต่อจากอกุศลชาติ มาถึงโดยลำดับแห่งถ้อยคำที่มาในอภิธัมมาวตาร. ควรศึกษาอัพยากตชาติโดยลักขณาทิจตุกกะเป็นลำดับแรก

ตทุภยวิปรีตลกฺขณมพฺยากตํ, อวิปาการหํ วาฯ
อัพยากตะนั้น #มีอันผิดแปลกไปจากกุศลและอกุศลทั้งสองเป็นลักษณะ

อีกอย่างหนึ่ง

อัพยากตะนั้น เป็นธรรมที่#ไม่ควรแก่วิบาก.

ลักษณะของอัพยากตะ ที่ควรกำหนดเป็นพิเศษ คือ ความเป็นตรงข้ามต่อกุศลและอกุศล. ดังนั้น คงต้องทบทวนลักษณะของกุศลและอกุศลสักเล็กน้อย

กุศล คือ ธรรมที่ไม่มีโทษและมีวิบากน่าปรารถนาเป็นลักษณะ, อกุศล คือ ธรรมที่มีโทษและมีวิบากไม่น่าปรารถนาเป็นลักษณะ อัพยากตะ ไม่ใช่ธรรมทั้งสองอย่างนั้น ก็เพราะไม่มีวิบากเลย. เมื่อไม่มีวิบาก จะชื่อว่า มีวิบากน่าปรารถนาและไม่น่าปรารถนาเป็นลักษณะได้อย่างไร.

#ปัญหาน่าสงสัย อีกแล้ว

ถาม คำว่า อัพยากตะ ที่ท่านอาจารย์อธิบายมา ก็คือ ธรรมที่มีวิบากอีกชนิดที่ผิดแปลกไปจากวิบากน่าปรารถนาและไม่น่าปรารถนา  เพราะเทียบกับอุเบกขาเวทนา ที่เป็นเวทนาอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นเวทนาผิดแปลกไปของสุขเวทนา ทุกขเวทนา ที่เรียกว่า อทุกขมสุขเวทนา อย่างนี้่ก็ได้ ถูกไหม?

ตอบ ไม่ได้ เพราะวิบากดังที่ว่ามานั้นไม่มีอยู่,  ท่านทั้งหลายลองนึกเปรียบเทียบดูกับแสงสว่างกับความมืด ยังมีแสงสว่างอีกชนิดหนึ่งที่เป็นแสงสว่างผิดแปลกไปอีกหรือ, จะมีความมืดอีกชนิดหนึ่งที่เป็นความมืดผิดแปลกไปอีกหรือ, ไม่มีหรอกท่าน ฉะนั้น เมื่อวิบากน่าปรารถนาและวิบากไม่น่าปรารถนาไม่มีวิบากอีกชนิดหนึ่งที่แปลกไป จะว่า อัพยากตะมีวิบากอีกชนิดหนึ่งที่แปลกไปได้อย่างไร.

อันที่จริงควรจำไว้ว่า อัพยากตะแปลกไปจากกุศลและอกุศล เพราะไม่มีวิบากเท่านั้นไม่ใช่มีวิบากแปลกไป. 

ปัญหาเหล่านี้มีไว้เพื่อความเป็นผู้มีเชาวน์ไวทางพระอภิธรรม อาจดูเหมือนเป็นความคิดที่แล่นออกไปนอกกรอบบ้าง แต่ถือว่า คิดเพื่อสร้างสรรค์ ขอพวกเราอย่าได้ละเลยข้อทักท้วงเหล่านี้ วันหนึ่ง ถ้าเจอปัญหาแบบนี้ จะได้มีทางออก.

ขออนุโมทนา
สมภพ สงวนพานิช


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น